ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ใครที่ยังมีความจำเป็นต้องขับขี่เดินทาง ก็คงจะรู้สึกว่าสายฝนเป็นอุปสรรคไม่น้อยเลย เพราะถนนจะลื่น หากตกหนักก็อาจมีน้ำท่วมขังเสี่ยงทำให้รถพังอีก ถ้าทำประกันชั้น 1 ไว้ก็อาจจะดีหน่อยตรงที่ยังพอเคลมค่าเสียหายได้ แต่ใครที่คำนวณดูแล้วว่าราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นสูงเกินไปสำหรับตัวเอง จึงเลือกทำประกันชั้น 2 หรือ 3 แบบนี้ก็คงต้องทำใจเรื่องความเสียหายของรถที่เกิดขึ้น

ฝนตกนอกจากจะทำให้เราต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นปัญหาที่ทำให้เราหนักใจเรื่องความเลอะเทอะของรถด้วย เพราะไปการคาร์แคร์เพื่อล้างรถแต่ละทีก็ย่อมมีค่าใช้จ่าย ยิ่งในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ใครก็ต้องการเซฟเงิน ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะมาแจกฟรีสูตรล้างรถแบบบ้าน ๆ ด้วยตัวเองแบบถูกวิธี ให้ทุกคนได้ทราบ รับรองรถสะอาดและเซฟเงินได้มากขึ้นชัวร์

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มลงมือล้างรถ

ในยุคโควิดแบบนี้อะไรเซฟได้ก็ต้องเซฟไว้ก่อน เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ช่วงนี้ทำให้ใครหลายคนต้องหาวิธีประหยัดกัน บางคนก็เริ่มมาพิจารณาเรื่องราคาประกันรถยนต์ที่เคยจ่ายว่าสูงไปหรือไม่ ใช้รถน้อยลงก็อาจจะคิดถึงเรื่องการปรับมาทำประกันที่ถูกลง แต่ที่เราประหยัดลงได้แน่ ๆ เลยก็คือ เรื่องการล้างรถ

อยู่บ้านมากขึ้นแบบนี้ หลายคนก็มีเวลาดูแลรถมากขึ้น จึงอยากจะแนะนำว่ามาล้างรถด้วยตัวเองบ้างดีกว่าไม่ต้องไปง้อคาร์แคร์ ประหยัดกว่าด้วย แต่ก่อนจะเริ่มลงมือล้างรถเอง ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการล้างรถให้พร้อม ซึ่งสิ่งที่จะต้องเตรียมมีดังนี้

  1. ฟองน้ำล้างรถ
  2. ผ้าเช็ดรถ
  3. สายยางฉีดล้าง หรือ เครื่องอัดฉีดล้างรถ
  4. น้ำยาล้างรถ ในที่นี้เราจะผสมเอง โดยใช้น้ำยาล้างจาน
  5. แชมพูล้างรถ
  6. ถังน้ำ 2 ถังสำหรับใช้แยกกัน

สูตรการล้างรถแบบใครก็ทำได้

เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้วก็มาเริ่มกระบวนการล้างรถกันได้ โดยเริ่มทำดังนี้

1.ผสมน้ำยาล้างรถ เติมน้ำลงในถังทั้ง 2 ถังประมาณครึ่งถัง และผสมน้ำยาล้างจานลงไปในน้ำ ซึ่งไม่ต้องกังวล น้ำยาล้างจานนั้นสามารถใช้ล้างรถได้ เพราะความเป็นกรดด่างในน้ำยาล้างจานไม่เป็นอันตรายต่อตัวรถหรือสีรถแน่นอน แถมขจัดคราบมันได้ด้วย ซึ่งถ้าใครไม่ต้องการซื้อเพิ่มและมีแชมพูล้างรถอยู่แล้วก็ให้นำมาใช้ผสมน้ำสำหรับล้างรถได้เลย

2.ขจัดคราบเบื้องต้น หลังจากผสมน้ำยาไว้แล้ว ก็ให้พักไว้จากนั้นให้ทำการฉีดน้ำล้างคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถให้หมด ฉีดให้ทั่วทั้งคัน โดยยังไม่ต้องขัดหรือเช็ด

3.ชำระล้างด้วยน้ำยาที่เตรียมไว้ ใช้ฟองน้ำหรือผ้าที่เตรียมไว้จุ่มกับน้ำยาล้างรถที่ผสมไว้ และเช็ดถูขจัดคราบในส่วนต่าง ๆ ของรถ ขอให้จำไว้ว่างให้แยกการใช้น้ำเป็นคนละถังระหว่างการล้างส่วนบนของรถกับส่วนล้างของรถ เพื่อไม่ให้น้ำมีตะกอนหรือเศษทรายจะได้ไม่เป็นการทำลายสีรถ

4.ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หลังจากนั้นให้ตามด้วยการล้างด้วยน้ำเปล่า จะใช้สายฉีดล้างก็ได้ ให้คราบน้ำยาออกให้หมด

5.เช็ดให้แห้ง: น้ำผ้ามาซับน้ำให้แห้ง อาจใช้เป็นผ้าชาวมัวร์ก็ได้จะซับน้ำได้ดี ต้องซับน้ำให้แห้งจริง ๆ จะได้เป็นการป้องกันสนิม

6.เคลือบสี: ถ้าใครมีน้ำยาเคลือบสีหรือ Wax ก็ให้มาลงทับเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เพียงเท่านี้ก็จะได้รถที่สะอาดใหม่เอี่ยมเหมือนไปล้างที่คาร์แคร์แล้ว แต่ประหยัดกว่ากันเห็น ๆ เซฟเงินไว้สำหรับการทำประกันรถยนต์ที่คุ้มครองเรามากขึ้นดีกว่า และหากใครต้องการอัปเดตเช็กราคาประกันรถยนต์ที่สนใจ เข้าไปดูได้เลยที่ EasyCompare มีข้อมูลครบช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอน